วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

RuNNie Returns

.
.
.


.
.
.
วันนี้ท้องฟ้าขมุกขมัว บรรยากาศปลายฝนต้นหนาว ที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว แต่สำหรับ ด่ำ ด๊ำ แล้ว มีแต่บรรยากาศที่หนาวเหน็บเพียงอย่างเดียว แอร์อะไรก็ไม่รู้ หนาวอิ๊บอ๋าย (^___^)) จริง ๆ แล้ว ด่ำ ด๊ำ ขาดความอบอุ่นจากหมอตะหาก

นับเป็นวันที่ ๔ แล้ว ที่พาตัวเองกลับเข้ามาทำงาน หลังจากที่ป่วยจนถึงขั้นผ่าตัดชุดใหญ่นานเกือบ ๖ ชั่วโมง และไปพักฟื้นอยู่กะหมอนกนานมาก นานเกือบ ๒ เดือนที่ห่างหายไปจากที่ทำงาน

.
ป่วยครั้งนี้รู้สึกว่าทรมานจากความเจ็บปวดทางกายและทางใจ รู้สึกทรมานกับการห่างไกลจากคนที่เรารัก ห่างแม่ ห่างพี่ ๆ ห่างหลาน ๆ ห่างบ้านและห่างหมอ มาอยู่กับสถานที่ไม่คุ้นเคยและคนแปลกหน้า จากคนแปลกหน้าเป็นคนคุ้นเคยกันในที่สุด ทั้งหมอเวร หมอใหญ่ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล แม่บ้าน จนถึงคนไข้เตียงข้าง ๆ กันในห้องคนไข้รวม

สำหรับด่ำ ด๊ำ แล้ว การป่วยครั้งนี้นับว่าสาหัสที่สุดของชีวิต ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเข้าโรงพยาบาลเพื่อ Admit ถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา ครั้งแรกนานถึง ๒๐ วันเพื่อผ่าตัดและพักฟื้น ครั้งที่สองอีก ๗ วัน เพื่อรับยาฆ่าเชื้อแบบเข้าเส้น

พุทธภาษิตที่ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสิรฐ ” ดูจะเป็นคำพูดที่จริงแท้และแน่นอนที่สุด เพราะคนเราทุกคนเกิดมาเป็นกรรมเป็นทายาท แต่ทายาทแห่งกรรมจะปรากฏให้เราเห็นตอนไหน จะปรากฏในรูปแบบไหน ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมที่แต่ละคนสร้างและสะสมกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน ๆ

เจ้ากรรมนายเวรของด่ำ ด๊ำ เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่มีตัวตนอยู่จริง และมีชีวิตอยู่ในภพเดียวกันกะด่ำ ด๊ำ นี่แหละ เป็นสัตว์ใหญ่ ๔ เท้า แม่โคฝูงใหญ่ ที่เป็นทั้งสัตว์ทดลองและอาจารย์ให้ด่ำ ด๊ำ และเพื่อนได้เรียนรู้วิชากัน ถึงตอนนี้เขาล้มหายตายจากไปแล้ว แต่กรรมที่เราทำกับเขาเมื่อครั้งเขายังมีชีวิตอยู่ยังคงอยู่กะด่ำ ด๊ำตลอดเวลา อาการที่ด่ำ ด๊ำ เป็น ก็คงไม่ต่างกันกับที่เขาเป็น ยาที่หมอให้ด่ำ ด๊ำ ก็เป็นยาตัวเดียวกันกะที่พวกเราฉีดให้พวกเขา

ตอนนี้กลับเข้าทำงานแล้ว แต่ก็ถูกลูกพี่สั่งให้พักงานไว้ก่อน จนกว่าจะมั่นใจว่า การเดินทางออกไปทำงานต่างจังหวัด จะไม่กระทบกระเทือนแผลผ่าตัดทั้งภายในและภายนอก คงอีกเป็นเดือนสองเดือน กว่าลูกพี่จะอนุญาตให้ออกไปทำงาน ทีนี้ ด่ำ ด๊ำ จะนั่งออฟฟิศ ฟอกตัวให้ขาวโบ๊ะเลยล่ะ คริ คริ (^____^))

ขอบคุณหมอนก ที่อยู่ข้าง ๆ ทั้งก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด ขอบคุณที่ทำให้ด่ำ ด๊ำ รู้ว่า การได้เห็นหน้าคนที่เรารัก หลังจากที่เราฟื้นจากยาสลบเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดในยามป่วยไข้ ขอบคุณทุกข้อความ ทุกถ้อยคำและทุกความรู้สึกในไดอารีเล่มแดงที่ทำให้รู้ว่า หมอรักและห่วงใยด่ำ ด๊ำ ทุกเวลาและทุกนาที

ขอบคุณลูกพี่ใหญ่ ( ผชช.ระดับ ๙) และพี่หมอคุด (น้องชายลูกพี่ใหญ่)ที่เป็นธุระจัดการเรื่องห้องพิเศษ Super VIP. ในวันที่ด่ำ ด๊ำเข้าห้องผ่าตัด และโทรถามไถ่อาการหลังผ่าตัด ก่อนที่ท่านจะบวชเป็นพระอย่างเต็มตัว

ขอบคุณหลานตัวเล็ก ตัวใหญ่ ที่มาเฝ้าอยู่หลายวัน และหลานจ๊วย หลานกิ่วกิ้ว ที่ส่งเสียงมาให้กำลังใจในยามที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ขอบุคุณอาจารย์หมออภิธาน หมอสุพัฒนพงศ์ พี่แดง พี่นุช และอีกหลาย ๆ คน ที่ดูแลด่ำด๊ำ อย่างดี

ขอบคุณน้องวิ เพื่อนร่วมงาน ที่สานต่องานโครงการวิจัย ป.โท ของพี่จนสำเร็จทั้ง ๕ ทริป (ไปทำกะเจ้ากรรมนายเวร เดิม ๆ อีกแระ)

ที่พลาดไม่ได้เลย ขอบคุณพี่หมู น้องมุก ที่พาน้ำมนต์ส่งโรงพยาบาลแบบฉุกเฉิน จนไม่ได้กินข้าวกลางวัน ถ้าไม่มีครอบครัวตัว ม. ช่วยเหลือในวันนั้น ก็คงไม่มีน้ำมนต์มานั่งตัวดำ ๆ ในวันนี้

ขอบคุณอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้ด่ำ ด๊ำ ได้มีโอกาสเจอคนดี ๆ เหล่านี้ และขอบคุณความรักที่ยังหมุนรอบตัวเราเสมอ ......รักแม่ รักหมอ และรักทุกคนคับผม

และท้ายสุด สุขสันต์วันเกิด หมอนก วันที่ ๖ กันยายน ขอพระคุ้มครอง อย่าเจ็บ อย่าจน นะคับผม (^____^))



.
.