วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

BaTmAn ::RuNNy 60 G!Gs

.
.

.
.

.
RuNNy 60 Gigs
วันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒
เวลา ๑๓.๓๙ น.

.
.


พร้อมแล้วสำหรับการเที่ยวไม่ง้อทัวร์ ด้วยการ Backpack to Bali Indonesia “ เกาะสวาท หาดสวรรค์ อัญมณีแห่งมหาสมุทรอินเดีย ” ระยะเวลา ๗ วัน ๖ คืน เหลืออีก ๓ วันเราก็จะเหินฟ้าไปแดนอิเหนาด้วยเที่ยวบิน Air Asia ตอนเช้ามืด ที่อิเหนาด่ำด๊ำไปบินพร้อมกับประไหมสุหรีหมอนก ส่วนมะเดหวี มะโต ลิกู และเหมาเหลาหงี... กิ๊กทั้งหลายก็กั๊กไว้ที่เมืองไทยนี่แหละ (^____^)) ตอนนี้เหลืออย่างเดียว ...รอแลกเงินดอลล่าร์พกใส่กระเป๋าไปเท่านั้นเอง





ทริปนี้เที่ยวแบบ Prepaid ซะเป็นส่วนใหญ่ กับการจ่ายเงินล่วงหน้าตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบิน (ถ้าเปิดให้จองแอร์ฯ ด้วย ด่ำด๊ำคงจองไปแร้น ) หมอจองโรงแรมที่เมืองอุบุด วางแผนว่าจะปั่นจักรยานกินลมชมวิวที่ถนน Monkey Forest ตอนเย็น ๆ เลยไปจองโรงแรมที่ชายหาดโลวิน่า ไปดูปลาโลมาสีเทา ๆ และเหตุผลที่สำคัญ... ก็เพื่อหนีฝรั่งตาน้ำข้าวจากหาดนูซาดัว หมอบอกว่ายิ่งไกลฝรั่งเท่าไร เรายิ่งปลอดภัยจากการก่อการร้ายมากเท่านั้น .... ทริปนี้หมอเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยดิ ด่ำด๊ำจะได้ดู Dhoom Dhoom สาวบุหงาบาหลี ก็งานนี้แหละ (^_____^))





เราวางแผนว่า เราจะไปเที่ยววัดสไตล์ฮินดู (ต้องใส่โสร่งด้วยดิ) เที่ยวทะเลรอบเกาะบาหลี และเที่ยวภูเขาไฟที่คินตามณี และทุ่งนาแบบขั้นบันได ( ตอนเรียนเกษตร อาจารย์บอกว่าทำนาแบบ Contour ) ไปตามประสาของเราสองคน พี่หมอเพื่อนร่วมอาชีพของหมอนก เพิ่งกลับจากไปเที่ยวบาหลีมาไม่กี่วัน โทรมาแนะนำไกด์ รถเช่ามาให้เสร็จสรรพ นัยว่าไม่อยากให้ขับรถเที่ยวกันเอง เพราะถนนคดโค้ง.....กลัวว่าเราจะเป็นอันตรายหัวร้างข้างแตกไปเสียก่อน .... ไปกะหมอกลัวไรนิ อย่างมากก็แค่โดนเขกกะโหลกซ้ำอีกทีนึง คริ คริ (^_____^))





วันก่อนหลังจากที่ไปรับหนังสือเดินทางที่แจ้งวัฒนะเสร็จ เราแวะไปงาน Power Buy ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ดู Mobile phone เผื่อว่าจะเตะตาบ้าง เพราะของเก่าของหมอทำท่าจะลาโลกอยู่รอมร่อ โทรศัพท์เจ๊ง ...ทำให้หมอขาดรายได้ไปหลายหมื่น ..... แต่ไม่ถูกใจซะง๊านแหละ เพราะพนักงานแมร่ง ไม่รู้อะไรสักเรื่อง แล้วจะมาเสนอหน้าทำแป๊ะไรวะ !!




เราเลยไปดู Camcorder …… “เล็ก ๆ หมอนกไม่ซื้อ ใหญ่ ๆ หมอนกก็ไม่ซื้อเหมือนกัน”....หมอนกไล่ดูตั้งแต่ Sony Olympus ไปที่ Sunyo สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่บูธ JVC เพราะแบรนด์นี้อยู่ในใจหมออยู่แล้ว ส่วนพนักงานขาย...พูดจนลิงอย่างด่ำด๊ำแทบจะหลับคาบูธเสียให้ได้เลย

สุดท้ายหมอนกก็ยอมจ่ายเงิน ที่บูธ JVC ด้วยการถอย Camcorder สีดำ ขนาด 60 กิ๊ก ราคา 2 หมื่นกว่า ๆ มา ๑ เครื่อง พนักงานสาว ๆ แทบจะก้มกราบลงแทบตักหมอนกซะง๊านแหละ เออนะ ..... กว่าจะพูดให้คนซื้อได้ เหนื่อยแทบรากเลือดเหมือนกัน นับถือจริง ๆ เลย





RuNNy 60 Gigs เคยเป็นยังไงก็เป็นง๊าน หมอบอกว่า กระล่อนและเจ้าชู้ จริงซะที่ไหนล่ะ !!! ก็แค่มีเสน่ห์ที่คำพูดโดยเฉพาะกับคนที่มีครอบครัวแล้ว.... แต่ด่ำด๊ำก็มะเคยโกหกใครนะคับผม มีเจ้าของแล้วก็บอกว่ามี ซะเมื่อไร !! ....ไม่มีใครรู้จักตัวตนเรา และความรู้สึกเรา ได้ดีกว่าไปกว่าตัวเราเอง (^____^))


หลายคนบนเส้นทางที่เดินสวนกัน ได้นำพาตัวเองมารู้จักกัน ทั้งชีวิตแห่งความเป็นจริงและโลกไซเบอร์ เป็นการยากที่จะปฏิเสธความรู้สึกดี ๆ ที่เขามีให้ และไม่ง่ายเลย..ที่เราจะสานต่อความรู้สึกดี ๆ ด้วยความมีสติ ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจหลงใหลไปกับกิเลสและตัณหา

“ เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด ” ด่ำด๊ำเลยเลือกเดินตามหมอ ไม่เลือกเดินตามหมา ....มีเมียมาก..ก็ปวดหัว มีเมียน้อย....ก็คิดถึง (^_____^))



.
.
ภาพประกอบ :: เกาะบาหลี อินโดนีเซีย By Stop at Nothing
.

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

BaTmAn :: Miss yOu

.
.

วันนี้วันพุธ กลางสัปดาห์ไปแล้ว อากาศเริ่มร้อนระอุ พอ ๆ กับที่ใจคนก็ร้อนระอุตามอากาศไปด้วย เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการว่างงาน ว่างยาวไปจนสิ้นเดือน และเลยไปถึงกลางเดือนหน้าที่ตัวเองลาพักผ่อน เพื่อเดินทางข้ามประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง....ด้วยการเที่ยวไม่ง้อทัวร์ .....Backpack to Bali …Indonesia



เมื่อวานหมอต้องทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ เพราะเล่มเก่าเกิดเน่าแถมเหม็นอีกต่างหาก จนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่รับประกันว่าจะได้ออกจากประเทศหรือป่าว สุดท้ายก็ต้องไปขึ้นเล่มใหม่ แต่ด่ำ ด๊ำขึ้นเล่มใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากเล่มที่แล้ว เริ่มต้นเดินทางออกต่างประเทศไปเที่ยวแบบ Backpack around England และจบลงที่ประเทศอังกฤษ ......ทั้งเล่มไปอยู่ประเทศเดียว คือ อังกฤษ ไปแล้วอยากไปอีก ไปแล้วยังไปได้อีก


เมื่อวานทำพาสปอร์ตที่แจ้งวัฒนะเสร็จ แวะมากิน Sizzler ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วมาทำใบขับขี่สากลที่กรมขนส่งทางบก แล้วแวะมากินไอติม Swensen ที่เซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ พาหมอแวะดูป้ายบอกรักที่บ้านจอหงวนโจ วันก่อนร้านนี้ ขึ้นป้ายบอกร้กกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ด่ำด๊ำรักเธอมาเนิ่นนานแบบไม่มีจะแปรเปลี่ยนไป ...... รัก (แม่) องุ่น





วันนี้นั่งดูรูปเก่า ๆ ว่าไปเที่ยวไปทำงานที่ไหนมาบ้าง แต่ดันจำไม่ได้ซะง๊านว่าที่ไหน รู้แต่ว่าเป็นรีสอร์ทเล็ก ๆ ที่สุพรรณบุรี ที่เราแวะเข้าไปหม่ำข้าวกลางวันตอนไปทำงานสอบสวนบริษัทฯ แถวนั้น กับ ลูกพี่อ้วนพลิ้ว แล้วก็เลยไปนอนค้างกันที่ราชบุรี ก่อนที่จะเข้าไปสอบสวนต่อที่ อ.สวนผึ้ง ราชบุรี ... จำได้แค่นี้แหละ ลูกพี่อ้วนพลิ้วก็ไม่อยู่ให้ถาม ไปราชการเชียงใหม่หลายวันแระ


หวลย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ที่ต้องขึ้นไปทำงานที่เชียงใหม่ ท้ายสุดคืนแรกเราก็ไม่ถึงเชียงใหม่ แต่กลับถึงลำปางแทน (อย่าคิดมาก) เกือบเที่ยงคืนแล้ว คนขับก็ไม่ไหว เจ้าหน้าที่ที่นั่งอย่างเดียวก็ไม่ไหวเหมือนกัน แวะนอนที่โรงแรมในตัวเมืองลำปาง ชื่อออกช้าง ๆ นี่แหละ (ขอสงวนชื่อแล้วกัน)





รีบอาบน้ำอาบท่าและรีบเข้านอน และงัวเงียตื่นมาด้วยอาการตกหมอน พร้อม ๆ กับได้ ยินเสียง กระซิบข้างหูแว่ว ๆ ว่า “ ไปก่อนนะ ” เห็นหญิงสาวผมยาวนุ่งกระโจมอกด้วยผ้าเช็ดตัวสีขาว ยืนหันหลังให้อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเธอก็เดินหายไปที่ห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัว เสียงซัดซ่า ๆ


เราฝันไป หรือเรื่องจริงกันแน่ ความกล้าผลักดันให้ลุกจากที่นอนเดินไปที่ห้องน้ำ ภาพที่เราเห็น ... มีแต่ความว่างเปล่าของห้องน้ำ ไม่มีหยดน้ำให้เห็นสักหยด เปิดผ้าม่านออกไปดูนอบรรยากาศนอกโรงแรม ฟ้าเริ่มสางแล้ว ด่ำ ด๊ำ อยู่ไม่ติด แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว รอให้ฟ้าสว่างกว่านี้ จะ ได้รีบเผ่นจากโรงแรมกันเสียที ...






คืนใหม่เราได้ที่พักที่เชียงใหม่ ชื่อออกช้าง ๆ เช่นกัน แสงแดดผีตากผ้าอ้อมยามเย็น ทำเอาหัวใจสะท้าน คืนนี้จะเจออะไรอีกไหม แต่แล้วเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ที่เราเข้าตรวจถามเราหลังจากพาพวกเรามาส่งหลังจากหม่ำข้าวมื้อค่ำ เสร็จ “ โรงแรมมีตั้งเยอะแยะ ทำไมเลือกพักโรงแรมนี้ ” ท้ายสุดเราก็ได้คำตอบว่า โรงแรมนี้มียิงกันตาย คนเลยไม่เข้าพัก .. เอาล่ะสิตรู คืนนั้นไม่อาจจะข่มตาหลับลงได้ ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกดชักโครกห้องน้ำในห้องนอนเราตลอดทั้งคืน


ความกล้าพาเราไปถึงห้องน้ำ ถ้าเราไม่กล้าเผชิญกะมัน เราก็จะนอนไม่ได้ทั้งคืนเช่นกัน ภาพที่เห็น เป็นความว่างเปล่า แต่แล้วเราก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเช่นกัน รีบอาบน้ำไปเรียกคนขับรถกะเจ้าหน้าที่อีกคน ยกเลิกวันพักที่เหลือ เผ่นดีกว่า ไปหาที่พักหน้า มช. ดูสาว ๆ หน้าตาจิ้มลิ้มชวนสยิวกิ๋วกิ้ว ดีกว่านอนโรงแรมสยองเยอะเลย (^______^))




เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสแวะเวียนไปดูหมอกะหมออิ๋วขาประจำ หลังจากที่ไม่ได้แวะเวียนไปหามาเนิ่นนาน เสียงทักทายแรกว่า ผอมไปนะ และต่อด้วย ไม่เห็นพาน้อง ๆ มาด้วยเลย ซะง๊าน วันนี้ขอมาเดี่ยว เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างแรง


ดวงชีวิต มีอะไรให้ตื่นเต้นอยู่เสมอ สรุปว่าทุกอย่างลงตัวหมด แถมจะได้แฟนเพิ่มอีกคน ( ถ้าหัวไม่แตกไปเสียก่อน) และตอกย้ำกับการมีสัมผัสพิเศษของ ตัวเอง เหมือนกับที่หมอคนอื่นบอก พอ ๆ กับที่เราก็รู้ตัวเองเช่นกัน ถ้า ด่ำ ด๊ำ รู้สึกคิดถึงใครคนไหน มาก ๆ คนนั้น ต้องมีอันตายจากไปทุกที ไม่ เว้นแม้แต่ญาติพี่น้องตัวเอง และเพื่อนในเลสล่า








“ ความคิดถึง ” เป็นคำพูดง่าย ๆ มาจากซอกหัวใจที่สลับซับซ้อน แต่มันยากที่จะบอกว่า เราคิดถึงเขา เพียงเพราะทิฐิ ถือตัว และอายที่จะบอกความรู้สึกนั้นออกไป อย่าปล่อยให้ความคิดถึง เป็นแค่ความคิด แล้วไม่ยอมส่งไปให้ถึง บางทีเขาอาจจะไม่อยู่ให้เราบอกว่า “ คิดถึง ” อีกก็เป็นได้


มีเพียงไม่กี่คน ที่จะได้รับความรู้สึกคิดถึงจากเรา อย่าปล่อยให้คนพิเศษ และโอกาสผ่านเลยไป โดยที่เราไม่ได้ทำอะไร เพราะฉะนั้น หมออย่าปล่อยให้รันคิดถึงหมอนาน เหมือน ๆ กับที่หมอก็ต้องให้อิสระกับความรู้สึกของด่ำด๊ำ ได้บอกความรู้สึกกะคนโน้นคนนี้บ้าง อย่าปล่อยให้ ด่ำ ด๊ำ คิดถึงเขา อย่าปล่อยให้เขาจากด่ำด๊ำ ไปโดยไม่ได้บอกความรู้สึกกะเขา .. บางทีคนที่ตายจากไป อาจจะเป็น ด่ำด๊ำ เองก็ได้ (^______^))……..I would like to say…. I miss yOu


.
.

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2552

BaTmAn :: Only the strOgest will survive.




Home sweethome

ตีสามกะอีกยี่สิบห้านาทีแล้ว เสียงนกกาเหว่าเริ่มร้อง ท้องฟ้ายังเป็นสีแดงด้วยไฟส่องทางจากถนน เป็นช่วงเวลาที่ไม่อาจจะข่มตาให้หลับลงได้เหมือนกันทุก ๆ คืนที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลประกาศวันหยุดเพิ่มอีก ๒ วัน ด่ำ ด๊ำมีเวลาอยู่กับบ้านอีกตั้ง ๕ วันน่ะ ก็เลยนอนดูทีวียาวจนป่านนี้ (^_______^))


สงกรานต์ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปทำบุญที่ไหน ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนด้วยเช่นกัน แต่ปีนี้พิเศษกว่าทุกปี ทำหมูกระทะกินกันด้วยล่ะ (ซะเมื่อไรล่ะ) วันนี้ที่ลูก หลาน เหลนในบ้านพร้อมใจกันรดน้ำขอพร แม่ ยาย ย่า ทวด ( ๔ ตำแหน่งในคนคนเดียวกัน) .... ทุกคนได้พรกันทั่วหน้า และทวดก็ได้พวงมาลัยดอกมะลิเต็มขันด้วยเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญสุดที่ไม่เคยขาดหายไป คือความรัก ความผูกพันในครอบครัวของเรานั่นเอง กอด กอด กอด (^______^))

Rapid Alert

ผ่านไปแล้วเหตุการณ์ช่วงที่เลวร้ายแต่ไม่ร้ายสุดของประเทศไทย อีกหนึ่งในความทรงจำของชีวิตตัวเอง ที่ไม่มีสี ไม่มีข้างไหน คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเราไม่รักกันแล้วจะให้ใครหน้าไหนมารักเรา “ ไทยไม่ช่วยไทย แล้วใครจะมาช่วยเราล่ะ ”

ท่ามกลางบรรยากาศครุกรุ่นที่สามเหลี่ยมดินแดนในวันสลายม็อบ ด่ำด๊ำได้เห็นชายไม่ประสงค์จะเปิดเผยใบหน้า ในชุดสีดำ ผ้าคลุมและหน้ากากสีดำ พร้อม ๆ กับเสียงตะโกน " BaTmAn มาแล้ว " ใครจะคาดคิดว่าชายผู้นั้นจะหลุดมาจากโลกของจินตนาการได้ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เปลี่ยนอารมณ์ครุกรุ่นเป็นเสียงหัวเราะ ทั้งทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนชาวแฟลต ไม่เว้นแม้แต่เสื้อแดงเลือดร้อน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มปรากฏตลอดเส้นทางที่เขาวิ่งจากแถวหน้าของทหารไปยังรถบรรทุกแก๊ส ... อย่างน้อยชายผู้นี้ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเคลียร์รถบรรทุกแก๊สได้เร็วขึ้น ... BaTmAn ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน แต่คุณเป็นฮีโร่สำหรับรันนี่เสมอ (^____^))


ส่วน Rapid Alert ของตัวเองก็ผ่านพ้นไปแล้ว กับการโดนหมอนกบังคับให้เข้าโรงพยาบาล เพื่อหาสัญญาณอันตรายจากร่างกายของตัวเอง (๒ รอบแล้วนะหมอ) เกือบโดนหมอใหญ่ต่อยซะแระ โทษฐานที่กวนโอ๊ยอาจารย์หมอ แหม !! ก็นิดนึงน๊า เพื่อความสบายใจของด่ำด๊ำ (^_____^))





Globe Journey

๓.๘๘ ไม่ใช่ขนาดของลูกกระสุนปืนของใคร แต่เป็นเกรดของเทอมที่ผ่านต่างหาก แอบน้อยใจอาจารย์เล็ก ๆ ว่า ทำไมไม่ให้ A ทั้งหมดก็มะรู้ อีก ๑ เดือนครึ่งก็จะเปิดเทอมแล้ว หมอยังไม่มีโปรแกรมเดินทางไปเที่ยวไหน ด่ำด๊ำ อยากไปเดินป่าที่เกาะใต้ของนิวซีแลนด์ แต่หมออยากไปบาหลี ความต้องการที่แตกต่าง แต่ไม่ได้ทำให้เราต้องแยกกันเดินทาง ด่ำด๊ำชอบสาวผิวสีแทน คิ้วเข้ม ตาคม พร้อมจะเดินทางไปบาหลีกับหมอแล้วคับผม ……ทำไปทำมา สงสัยได้เที่ยวแค่เกาะเสม็ด เสร็จหมออีกแระ (^____^))


มีเสียงกระซิบมาจากลูกพี่ ผู้ชายอารมณ์ปริ๊ดว่า จะจัดคิวให้ด่ำด๊ำ ไปตรวจประเมินระบบโรงงานในประเทศแถบยุโรป หลังจากที่ลูกพี่อ้วนพลิ้วไปตรวจงานที่สเปนมาแล้ว และเดือนนี้เป็นคิวของเยอรมัน ลูกพี่อ้วนดำเตรียมตัวบินปลายเดือนนี้ ขอร้อง อย่าจัดโปรแกรมให้ด่ำด๊ำไปตรวจ งานช่วงหน้าหนาวเลยนะคับผม มิฉะนั้นด่ำด๊ำอาจจะแข็งตายก่อนจะได้ตรวจงานก่อนก็เป็นได้ ขอเป็นโปรแกรมถัดไปได้ป่าวคับ !! ด่ำด๊ำจะได้เตรียมพริกกะเกลือไปด้วย ส่วนฝรั่งไปหาเอาข้างหน้า คริ คริ (^_____^))


The Secret of my Mind

ทุกชีวิตที่เกิดมา ล้วนมีบทบาทและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อครอบครัว และส่วนรวมด้วยกันทั้งสิ้น อุปสรรค คือบททดสอบของชีวิต... ว่าเราแกร่งพอ และอดทนพอที่จะก้าวไปพบกับความสำเร็จ ความสุข ความสมหวังข้างหน้านั้นหรือเปล่า เราสะดุด ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้ เราหยุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้เดินไปข้างหน้าต่อ เพียงแต่เราถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อเตรียมพร้อมที่จะกระโดดไปข้างหน้าให้ไกลที่สุดต่างหาก .... Only the strOgest will survive.เหนื่อยนัก ก็นอนยาวไปเลย (^_____^))

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

BaTmAn :: Trad !n Memory



วันนี้เป็นอีกวันที่ได้นั่งว่างงานอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง อากาศในห้องหนาวจนเย็นเยือก แต่อากาศข้างนอกร้อนอิ๊บอ๋าย แล้วคนตัวดำจะไม่ดำเป็นเหนี่ยงยังไงไหว





เมื่อเดือนที่แล้วไปตรวจงานที่สมุทรปราการ ไปหม่ำข้าวกลางวันที่บางปู ไปดูนกนางนวลที่พาลงจอดกันเต็มหาด สีขาวตัดกับ ท้องฟ้าสีฟ้า ดูสวยงาม เมฆยังคงเป็นสีขาว ฟ้ายังคงเป็นสีฟ้า ...แต่รันนี่ยังคงดำเหมือนเดิม




เดือนที่ผ่านมา เป็นเดือนแห่งการเดินทางไปจังหวัดตราด ถึงสามครั้งสามครา ไปแล้วไปอีก ไปแล้วยังไปได้อีก ครั้งแรกไปตรวจประเมินระบบ ครั้งที่สอง ไปเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เคยร้อน เป็นที่ร้อนกว่า เปลี่ยนที่นอนจากอพาร์ทเมนท์ปูน ไปนอนกระท่อมไม้ชายทะเล อ.คลองใหญ่ กะหมอนก ครั้งที่สาม กลับเข้าไปตรวจงานอีกครั้ง ... ไปแล้วไปอีก ไปแล้วยังไปได้อีก ... มีเสียงตอกย้ำจากที่ประชุม และบริษัทฯ ที่เข้าตรวจบอกว่า .. หมอตรวจเข้มจัง ควรจะดีใจไหมเนี่ย !!



เส้นทางเดินของเรา คือ เส้นทางไป อ.คลองใหญ่ และเลยไปเที่ยวบ้านหาดเล็ก ตลาดสินค้าชายแดนไทย – กัมพูชา ที่คั่นด้วยเทือกเขาบรรทัดตลอดแนวชายทะเล เราไม่ได้ซื้ออะไรกลับมา แท้ที่จริงสิ่งของทั้งหลาย ก็ล้วนไปจากคลองถมทั้งเพ

ที่พักของเรา ... คือการไปหาเอาข้างหน้า ที่พักตั้งเรียงรายไปตามเส้นทาง อ.คลองใหญ่ ที่เลียบชายฝั่งทะเลไปตลอดเส้นทาง

บ้านพักตากอากาศ คือ ที่หมายแรกที่เราแวะเข้าไป บ้านหลังเล็ก ๆ สีขาวไม่ได้อยู่ติดทะเลสักเท่าไร บ้านประภาคาร คือที่หมายของเรา แต่ว่าสายไปเสียแล้ว .. กลุ่มคนที่เข้ามาถ่ายแบบ ด้วยกองถ่ายขนาดย่อม พร้อมนางแบบตัวเล็ก ๆ ที่เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าเป็นใคร มีหนังสือเล่มไหนเป็นเจ้าภาพ จับจองบ้านประภาคาร พร้อมยึดบ้านริมหาดไปเรียบร้อยแล้ว ....




Centara ... คือ เป้าหมายถัดไป ... ราคาแพงลิบมากเท่าไร แต่ที่พักก็เต็มคับพี่น้อง ชายหาดและสระน้ำเต็มไปด้วยฝรั่งหัวทอง ที่ข้ามน้ำข้ามฟ้า มาเที่ยวทะเลบ้านเรา เห็นฝรั่งช่างเขียนนอนเรียงรายเขียนหนังสืออย่ริมสระ ใครจะคาดคิด นักเขียนชื่อดัง J.K. Rowling เจ้าของแฮรี่พอตเตอร์ อาจจะนอนทอดกายอยู่ ณ เบิ้องหน้าเราก็เป็นได้









The Royal Clift Beach เป้าหมายถัดไป ที่เราแวะเข้าไปดูบรรยากาศที่พัก กระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่ไม่ได้อยู่ติดทะเลตั้งเรียงรายอยู่ บรรยากาศเริ่มโพล้เพล้ ดูเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก รันนี่ไม่รอช้ารีบเดินไปที่ริมหน้าผา เห็นบันไดสีเขียวทอดลงไปชายหาดเบื้องล่าง เดินไปนับไปได้ ๙๓ ขั้น เสียงหมอนกตะโกนบอกว่า “ ดำ จะพักหรือป่าว ถ้าไม่พักจะได้เข้าเมืองก่อนค่ำ ” เสียงตะโกนของหมอนก สะเทือนถึงดวงดาว ราคาที่พักจาก ๒,๒๐๐ บาท เด้งไปที่ ๑,๗๐๐ บาททันที









“ เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก ” คำนี้เองที่มีความหมายยิ่งใหญ่ หากเราไม่พักที่นี่ คืนนี้ ใครจะไปรู้ว่า วันพรุ่งนี้อาจจะมีน้อง ๆ พนักงานที่นี่ตกงานนับสิบคนก็ได้

ที่นี้เอง .. ที่บริการเราอย่างเต็มที่ ทุกสิ่งทุกอย่างบริการถึงที่นอนเลยก็ว่าได้ อาหารเช้าพร้อมเสริฟ ทั้งที่เรายังอยู่ริมหาด พนักงานนำเสนอขายสินค้าโอทอปของรีสอร์ท หมอนกเลือกน้ำหอมให้รันนี่ ๑ ขวด ...ฉีดที่รัน หอมถึงหมอนก ฉีดที่ตราด หอมถึงกรุงเทพฯ เลยล่ะ





















ขากลับเราแวะเที่ยวหาดทรายแก้ว เห็นชื่อทำให้นึกถึงหาดทรายละเอียดยิบสีขาว สะท้องกับกับแสงแดดแวววับ หนทางที่ไปเป็นสะพานไม้ผุ ๆ ทอดไปที่ตัวเกาะ ลูกแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมลุย แต่ลูกทะเลอย่างหมอนกกลับไม่พร้อม ด้วยสภาพสะพานผุ ๆ ที่อาจจะพาร่างหมอ นกไปนอนแอ้งแม้งเป็นเพื่อนปลาตีนอยู่ในคลองก็เป็นได้

หาดทรายแก้วในความคิด เป็นเพียงหาดทรายเล็ก ๆ ที่เศษปรักหักพัง ของต้นสนทะเล สกปรกจนหาความสวยงามไม่ได้ อดีตที่เคยงดงามแหล่งท่องเที่ยวของ อ.คลองใหญ่ เหลือเพียงอดีต .... เศษซากของความสวยงาม











Trad !n Memory ... อีกหนึ่งในความทรงจำของรันนี่ ที่มีหมอนกอยู่ข้างกายตลอดเส้นเดินทางท่องเที่ยว และเส้นทางเดินของชีวิต รันยังคงเป็นรัน ปลาสองตัว สองบุคลิกในคนเดียวกัน เป็นนักฝันและพร้อมที่จะล่าฝันไปทุกเมื่อ ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการมีความรักที่งดงามและเผื่อแผ่ความรักที่งอกงามไปสู่ผู้คนรายรอบตัว บันทึกเป็นความทรงจำที่ดีของชีวิต ตราบทะเลสีครามและท้องฟ้ากว้างใหญ่ยังคงอยู่เป็นความรู้สึกในหัวใจของเรา