วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

BaTmAn :: Trad !n Memory



วันนี้เป็นอีกวันที่ได้นั่งว่างงานอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง อากาศในห้องหนาวจนเย็นเยือก แต่อากาศข้างนอกร้อนอิ๊บอ๋าย แล้วคนตัวดำจะไม่ดำเป็นเหนี่ยงยังไงไหว





เมื่อเดือนที่แล้วไปตรวจงานที่สมุทรปราการ ไปหม่ำข้าวกลางวันที่บางปู ไปดูนกนางนวลที่พาลงจอดกันเต็มหาด สีขาวตัดกับ ท้องฟ้าสีฟ้า ดูสวยงาม เมฆยังคงเป็นสีขาว ฟ้ายังคงเป็นสีฟ้า ...แต่รันนี่ยังคงดำเหมือนเดิม




เดือนที่ผ่านมา เป็นเดือนแห่งการเดินทางไปจังหวัดตราด ถึงสามครั้งสามครา ไปแล้วไปอีก ไปแล้วยังไปได้อีก ครั้งแรกไปตรวจประเมินระบบ ครั้งที่สอง ไปเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เคยร้อน เป็นที่ร้อนกว่า เปลี่ยนที่นอนจากอพาร์ทเมนท์ปูน ไปนอนกระท่อมไม้ชายทะเล อ.คลองใหญ่ กะหมอนก ครั้งที่สาม กลับเข้าไปตรวจงานอีกครั้ง ... ไปแล้วไปอีก ไปแล้วยังไปได้อีก ... มีเสียงตอกย้ำจากที่ประชุม และบริษัทฯ ที่เข้าตรวจบอกว่า .. หมอตรวจเข้มจัง ควรจะดีใจไหมเนี่ย !!



เส้นทางเดินของเรา คือ เส้นทางไป อ.คลองใหญ่ และเลยไปเที่ยวบ้านหาดเล็ก ตลาดสินค้าชายแดนไทย – กัมพูชา ที่คั่นด้วยเทือกเขาบรรทัดตลอดแนวชายทะเล เราไม่ได้ซื้ออะไรกลับมา แท้ที่จริงสิ่งของทั้งหลาย ก็ล้วนไปจากคลองถมทั้งเพ

ที่พักของเรา ... คือการไปหาเอาข้างหน้า ที่พักตั้งเรียงรายไปตามเส้นทาง อ.คลองใหญ่ ที่เลียบชายฝั่งทะเลไปตลอดเส้นทาง

บ้านพักตากอากาศ คือ ที่หมายแรกที่เราแวะเข้าไป บ้านหลังเล็ก ๆ สีขาวไม่ได้อยู่ติดทะเลสักเท่าไร บ้านประภาคาร คือที่หมายของเรา แต่ว่าสายไปเสียแล้ว .. กลุ่มคนที่เข้ามาถ่ายแบบ ด้วยกองถ่ายขนาดย่อม พร้อมนางแบบตัวเล็ก ๆ ที่เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าเป็นใคร มีหนังสือเล่มไหนเป็นเจ้าภาพ จับจองบ้านประภาคาร พร้อมยึดบ้านริมหาดไปเรียบร้อยแล้ว ....




Centara ... คือ เป้าหมายถัดไป ... ราคาแพงลิบมากเท่าไร แต่ที่พักก็เต็มคับพี่น้อง ชายหาดและสระน้ำเต็มไปด้วยฝรั่งหัวทอง ที่ข้ามน้ำข้ามฟ้า มาเที่ยวทะเลบ้านเรา เห็นฝรั่งช่างเขียนนอนเรียงรายเขียนหนังสืออย่ริมสระ ใครจะคาดคิด นักเขียนชื่อดัง J.K. Rowling เจ้าของแฮรี่พอตเตอร์ อาจจะนอนทอดกายอยู่ ณ เบิ้องหน้าเราก็เป็นได้









The Royal Clift Beach เป้าหมายถัดไป ที่เราแวะเข้าไปดูบรรยากาศที่พัก กระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่ไม่ได้อยู่ติดทะเลตั้งเรียงรายอยู่ บรรยากาศเริ่มโพล้เพล้ ดูเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก รันนี่ไม่รอช้ารีบเดินไปที่ริมหน้าผา เห็นบันไดสีเขียวทอดลงไปชายหาดเบื้องล่าง เดินไปนับไปได้ ๙๓ ขั้น เสียงหมอนกตะโกนบอกว่า “ ดำ จะพักหรือป่าว ถ้าไม่พักจะได้เข้าเมืองก่อนค่ำ ” เสียงตะโกนของหมอนก สะเทือนถึงดวงดาว ราคาที่พักจาก ๒,๒๐๐ บาท เด้งไปที่ ๑,๗๐๐ บาททันที









“ เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก ” คำนี้เองที่มีความหมายยิ่งใหญ่ หากเราไม่พักที่นี่ คืนนี้ ใครจะไปรู้ว่า วันพรุ่งนี้อาจจะมีน้อง ๆ พนักงานที่นี่ตกงานนับสิบคนก็ได้

ที่นี้เอง .. ที่บริการเราอย่างเต็มที่ ทุกสิ่งทุกอย่างบริการถึงที่นอนเลยก็ว่าได้ อาหารเช้าพร้อมเสริฟ ทั้งที่เรายังอยู่ริมหาด พนักงานนำเสนอขายสินค้าโอทอปของรีสอร์ท หมอนกเลือกน้ำหอมให้รันนี่ ๑ ขวด ...ฉีดที่รัน หอมถึงหมอนก ฉีดที่ตราด หอมถึงกรุงเทพฯ เลยล่ะ





















ขากลับเราแวะเที่ยวหาดทรายแก้ว เห็นชื่อทำให้นึกถึงหาดทรายละเอียดยิบสีขาว สะท้องกับกับแสงแดดแวววับ หนทางที่ไปเป็นสะพานไม้ผุ ๆ ทอดไปที่ตัวเกาะ ลูกแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมลุย แต่ลูกทะเลอย่างหมอนกกลับไม่พร้อม ด้วยสภาพสะพานผุ ๆ ที่อาจจะพาร่างหมอ นกไปนอนแอ้งแม้งเป็นเพื่อนปลาตีนอยู่ในคลองก็เป็นได้

หาดทรายแก้วในความคิด เป็นเพียงหาดทรายเล็ก ๆ ที่เศษปรักหักพัง ของต้นสนทะเล สกปรกจนหาความสวยงามไม่ได้ อดีตที่เคยงดงามแหล่งท่องเที่ยวของ อ.คลองใหญ่ เหลือเพียงอดีต .... เศษซากของความสวยงาม











Trad !n Memory ... อีกหนึ่งในความทรงจำของรันนี่ ที่มีหมอนกอยู่ข้างกายตลอดเส้นเดินทางท่องเที่ยว และเส้นทางเดินของชีวิต รันยังคงเป็นรัน ปลาสองตัว สองบุคลิกในคนเดียวกัน เป็นนักฝันและพร้อมที่จะล่าฝันไปทุกเมื่อ ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการมีความรักที่งดงามและเผื่อแผ่ความรักที่งอกงามไปสู่ผู้คนรายรอบตัว บันทึกเป็นความทรงจำที่ดีของชีวิต ตราบทะเลสีครามและท้องฟ้ากว้างใหญ่ยังคงอยู่เป็นความรู้สึกในหัวใจของเรา