วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552
BatmAn :: You Changed my World
ดึกแล้ว หมอไปขึ้นเวร ด่ำด๊ำยังคงอยู่กะหมอต่ออีก ๑ คืน... ปี ๒ เทอม ๑ ผ่านพ้นไปแล้ว จบคอร์สเวิร์คแล้วสำหรับปริญญาโท วิทยาศาตร์มหาบัณฑิต เป็นไทแล้วดำด๊ำเอ๊ย รอแต่แก้เนื้อหาปัญหาพิเศษ แล้วก็รอลุ้นเกรดสำหรับเทอมนี้ รอสอบ Propasal สำหรับเทอมหน้าเพื่อลุยทำ Thesis ให้จบภายใน ๒ เทอม ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ปลายปีหน้า ด่ำด๊ำก็คงจะได้แต่งชุดข้าราชการเต็มยศเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร (อีกรอบ) แน่นอน
เสาร์โน้น ก่อนปิดเทอม ด่ำด๊ำได้มีโอกาสสนทนากับหนุ่มอเมริกันคนหนึ่ง ที่เดินทางมาจาก Los Angelis เข้ามาพักที่หอพักมหาลัยเหมือนกัน หนุ่มนั้นถามด่ำด๊ำด้วยคำพูดภาษาไทยว่า ... คุณพูดภาษาฉันได้ไหม ? และเป็นที่มาของการ Conversation และ Writing ระหว่างรอส่งหนุ่มน้อยคนนี้ขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯ ตอนรุ่งเช้าอีกวันหนึ่ง หนุ่มอเมริกันคนนี้เข้ามาเรียนวิปัสสนากับพระอาจารย์ปราโมทย์ ที่สวนสันติธรรม ที่ด่ำด๊ำและหมอมีโอกาสได้ไปสดับธรรมมาแล้วครั้งหนึ่ง น้องชาย น้องสาว ลูกพี่ลูกน้องของหนุ่มอเมริกันต่างมาเรียนกับพระอาจารย์ปราโมทย์กันแล้วทั้งนั้น หนุ่มน้อยมีความรู้ถึงระดับ ศิล สมาธิ ปัญญา ถึงขั้นรู้จักหลวงพ่อชา รู้จักวัดป่านานาชาติแล้ว เขาตั้งใจมาเรียนพุทธศานา เพื่อรับศาสนาพุทธเมื่อถึงเวลา .... เราคุยตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ ... จนถึงความหมายของคำว่า “ หลวงพ่อชา “
และวันนี้เองที่ด่ำด๊ำถามหนุ่มน้อย ชอบไมเคิล แจ๊กสันไหม เราต่างชอบไมเคิลเหมือนกัน ด่ำด๊ำบอกหนุ่มน้อยนั้นว่า.. If Jackson knew Bhuddism, He wouldn’t die. Samathi can heal his Insomnia .
พรุ่งนี้ วันอังคารที่ ๒๙ เดือน ๙ ปี ๐๙ ถึงจะเป็นตัวเลขของปีสากล แต่เลข ๙ เป็นตัวเลขที่เราเกิดและผูกพันมาตั้งแต่เกิดและเป็นเลขโปรดของตัวเองจนถึงวันนี้ .. และเป็นเวลากว่า ๙๐ วัน ที่โลกนี้และชีวิตด่ำด๊ำได้สูญเสียศิลปินในดวงใจ อย่างไม่มีวันกลับมา ใครจะคิด... ด่ำด๊ำยังคุยเรื่องไมเคิลกับน้องมุกก่อนหน้าที่เขาจะตายไปได้แค่ ๒ วัน สัมผัสความตายบนความคิดถึง คนที่ด่ำด๊ำคิดถึงจากไปอีกคนแล้ว ..... ไม่อยากคิดถึงใครอีกแล้ว....
ใครจะคิดว่าปี ๐๙ เป็นปีที่ด่ำด๊ำสูญเสียนักร้องในดวงใจ Michael Jackson (1958-2009) นักร้องผิวสี คนที่ด่ำด๊ำ ทึ่งในความสามารถ ชอบและรักเขาอย่างเต็มหัวใจ รู้สึกผูกพันกับเขาทั้งที่เราอยู่กันคนละซีกโลก ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กจนป่านนี้ แม้วันนี้เราจะอยู่คนละกาลเวลา ความรู้สึกนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป ไมเคิล แจ๊กสัน เป็นศิลปินคนแรกคนเดียวที่ด่ำด๊ำและเพื่อนซี้ ลงทุนเข้ากรุงเพื่อซื้อบัตรดูคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของเขา แม้จะมีเหตุการณ์ที่เขาต้องยกเลิกคอนเสิร์ตครั้งนั้นไป ก็ไม่ได้ทำให้เรารักเขาน้อยลง และไม่มีอะไรที่จะทำให้ด่ำด๊ำรักเขาน้อยลงไปเลยสักครั้ง
แม้วันนี้จะข่าวอะไรต่อมิอะไรออกมาว่า เขายังไม่ตาย เขายังมีชีวิตอยู่ อยู่ที่โน่นที่นี่ แต่สำหรับด่ำด๊ำแล้ว เขายังอยู่ในหัวใจและลมหายใจของเราตลอดมา ถามตัวเองอยู่หลายครั้งตลอดระยะเวลาที่ดูการถ่ายทอดพิธีไว้อาลัยที่ Staple Center ตั้งแต่เริ่มจนจบการถ่ายทอดว่า ไมเคิล แจ๊คสันตายไปแล้วจริงๆ หรือ !!
You Changed my World …เส้นทางเดินของไมเคิล สอนให้ด่ำด๊ำรู้จักใช้ชีวิตมากขึ้น ชีวิตที่มีเกิดและดับ มีขึ้นและมีลง สอนให้รู้จักต่อสู้กับชีวิต เหมือนดังคำที่ว่า “ ท้อได้แต่อย่าถอย ถอยได้แต่อย่าล้ม ล้มได้แต่อย่าเจ็บ เจ็บได้แต่อย่าตาย ตายได้ ... แต่ต้องรีบมาเกิดใหม่”
อย่างที่สาธุคุณท่านหนึ่งพูดไว้อาลัยในงาน “ไมเคิล... เป็นตัวอย่างของคนสู้ชีวิต แม้จะล้ม แต่เขาก็กลับมาสู้ใหม่ ไมเคิล ไม่ใช่คนแปลก แต่ผู้คนและ สิ่งที่เกี่ยวพันกับเขาต่างหากเป็นสิ่งที่แปลก ”
เป็นคนเดียวที่ด่ำด๊ำถาม Searh Engine อย่าง Google.com ว่า “ วิญญาณไมเคิลอยู่ที่ไหน ? ” และด่ำด๊ำก็ได้คำตอบกลับมาว่า “ ไมเคิล เป็นคนที่มีจุดมุ่งหมายมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว มีความฝัน ภายใน ๒๐ ปี ไมเคิลจะกลับมาเกิดใหม่ ในขณะที่ดวงวิญญาณทั่วไปต้องใช้เวลาถึง ๑๕๐ ปีถึงจะมาเกิดใหม่
เหมือนดังที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ชีวิตมีเกิดและมีดับ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร เมื่อตายไปร่างกายเราจะสลายร่างกลับไปเป็นธาตุทั้ง ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนดวงจิตก็ไปหาธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เพื่อรวมจิตกลับมาเป็นชีวิตใหม่อีกครั้ง ตราบเท่าที่เรายังต้องการเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ “ ทำดีได้ไปสวรรค์ ทำชั่วนรกลงฑัณฑ์ ”
แต่เรายังมีธาตุทั้ง ๔ ยังมีลมหายใจรวมอยู่เป็นร่างให้จิตของเราได้อยู่อาศัย ไม่มีใครหนีความตายไปได้ การไม่ประมาทกับชีวิต ดำรงอยู่ด้วยการประพฤติอยู่ในศิลอันดี ให้ทาน สวดมนตร์ และทำสมาธิ จะเป็นหนทางให้ดวงจิตของเราพบความสงบทั้งที่ยังมีลมหายใจ และยามที่ทิ้งร่างจากโลกนี้ไป และเป็นหนทางที่จะพาเราไปสู่ภพภูมิที่ดี และเลือกเกิดได้อย่างที่เราอธิษฐาน
ชิวิตนี้ รู้สึกดีใจและมีความสุขที่ได้เกิดมาทันศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล “ไมเคิล แจ๊กสัน “ มีความสุขที่ได้เห็นหน้าเขา ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ครั้งก็ตาม มีความสุข ความฝัน สนุกสนานไปกับการติดตามข่าวสาร และเสียงเพลงของ King of Pop หากแต่วันนี้ เวลานี้ แม้ว่าจะผ่านไปกว่า ๙๐ วันแล้ว ความคิดถึงยังไม่จางหายไปไหน ..... ขอความดี กุศลธรรมที่ด่ำด๊ำได้ทำตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้นำพาให้พบเจอคนที่รัก คนที่คิดถึงทุก ๆ คนทุกชาติไป.........In loving memory of Michael Jackson King of Pop (1958-2009)
RuNNy 29/9/09